คู่มือรอดชีวิตในช่วงเศรษฐกิจขาลงสำหรับนักการตลาดบนแอป

แม้ว่าอุตสาหกรรมแอปมือถือจะส่งสัญญาณและแสดงแนวโน้มที่ดีมากในช่วงปี 2023 เศรษฐกิจของเราก็ยังคงอยู่ในช่วงขาลง โดยที่เค้าลางว่าจะเกิดภาวะถดถอยยังคงไม่จางหายไปไหน ถือเป็นความท้าทายที่ชวนให้ธุรกิจต่างๆ หวั่นใจ โดยเฉพาะบรรดาธุรกิจที่กำลังพยายามสร้างรากฐานที่มั่นคงในตลาด การตลาดแอปและผู้พัฒนาย่อมได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจตกต่ำนี้ เนื่องจากมีเม็ดเงินหลั่งไหลเข้าสู่เศรษฐกิจเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายโฆษณาน้อยลง ส่วนผู้ใช้ก็มีแนวโน้มที่จะใช้จ่ายน้อยลงเมื่อเทียบกับช่วงที่เศรษฐกิจเฟื่องฟู สร้างแรงกดดันให้แทบทุกโมเดลการสร้างรายได้ของแอป ตั้งแต่การสมัครสมาชิกไปจนถึงการซื้อภายในแอป ฯลฯ

กุญแจสำคัญคือการคิดนอกกรอบและพัฒนากลยุทธ์การตลาดที่แปลกใหม่เพื่ออยู่รอดจนประสบความสำเร็จได้ท่ามกลางสภาพแวดล้อมเช่นนี้ ซึ่งรวมถึงการที่หลายคนมองว่านักการตลาดควรลดงบประมาณลง ในขณะที่ยังคงขยายแอปและรักษากำไรไว้ให้ได้ ในบล็อกนี้ เราจะเริ่มสำรวจกันว่าการลดงบประมาณของแคมเปญนั้นคือทางออกจริงๆ หรือไม่ จากนั้น เราจะมาเจาะลึกโอกาสทำการตลาดแอปที่สำคัญในช่วงเศรษฐกิจตกต่ำ โดยเน้นที่กลยุทธ์ Remarketing และ Retention

แม้การตัดงบประมาณการตลาดอาจดูเป็นการแก้ปัญหาสูญเสียรายได้อันแสนง่ายดายและรวดเร็วในช่วงขาลง แต่ยังมีกลยุทธ์ระยะยาวหลายอย่างที่ควรพิจารณาไว้ อันที่จริง ธุรกิจที่ตัดงบประมาณการตลาดในช่วงภาวะเศรษฐกิจถดถอย มักฟื้นตัวกลับมาได้ยาก ในทางกลับกัน บริษัทที่ยังคงรักษาระดับการใช้จ่ายหรืออัดฉีดเงินเพิ่มขึ้นกลับมีแนวโน้มที่จะแข็งแกร่งขึ้นเมื่อวิกฤตทางเศรษฐกิจผ่านพ้นไปแล้ว

ยกตัวอย่างเช่น เมื่อเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยครั้งใหญ่ในปี 2008 บริษัทที่ยังคงจัดสรรงบประมาณให้กับการตลาดเท่าเดิมและลงทุนเพื่อการเติบโตนั้นมีอัตราการเติบโตสะสมถึง 17% จากการศึกษาอย่างเข้มข้นด้วยข้อมูลของ 3,900 บริษัททั่วโลก การจัดสรรงบประมาณการตลาดอย่างรอบคอบคือตัวตัดสินชี้ขาด และการใช้เครื่องมือและกลยุทธ์ที่ดีที่สุดเพื่อปรับแผนการลงทุนก็สำคัญไม่แพ้กัน

บริษัทที่ปรับการจัดสรรงบประมาณการตลาดให้เหมาะกับสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไปมักจะเห็นผลดีกว่าบริษัทที่ลดการลงทุน ซึ่งหมายความว่านักการตลาดแอปจะต้องปรับตัวตามพฤติกรรมของผู้บริโภคและเทรนด์ในอุตสาหกรรมเพื่อประสบความสำเร็จในช่วงเศรษฐกิจชะลอตัว โดยปรากฏการณ์เดียวกันนี้ก็เกิดกับอุตสาหกรรมแอปในช่วงที่โควิด 19 ระบาดครั้งใหญ่ แอปต่างๆ สามารถเพิ่มการรับรู้แบรนด์และส่วนแบ่งตลาดได้ในช่วงที่คู่แข่งพยายามหดตัวลง กลยุทธ์นี้จะช่วยลดระยะเวลาที่จะเกิดภาวะถดถอยและนำธุรกิจไปสู่ความสำเร็จในระยะยาว

ในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจมีแต่ความไม่แน่นอน ความคิดสร้างสรรค์และการมีกลยุทธ์คือปัจจัยสำคัญสำหรับนักการตลาดบนมือถือ โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่ที่งบประมาณมีอยู่จำกัด กรณีเช่นนี้เองที่กลยุทธ์ Retargeting และ Remarketing ช่วยได้ การดึงดูดให้ผู้ใช้ที่เคยติดตั้งกลับมามีปฏิสัมพันธ์กับแอปช่วยให้นักการตลาดประหยัดเงินและได้รับผลลัพธ์ที่น่าพอใจไปพร้อมๆ กัน โดยตัวเลขไม่เคยโกหก Retargeting สามารถเพิ่ม Conversion Rate ได้สูงสุดถึง 150% นอกจากนี้ Retention ก็สำคัญเช่นเคย นอกจาก Retention Rate ที่สูงจะดูดีในภาพรวมแล้ว ผู้ใช้ที่ใช้งานเป็นระยะเวลานานกว่ายังมี Engagement สูงกว่าและให้โอกาสสร้างรายได้มากกว่าด้วย

แล้วแผน Remarketing เมื่อเศรษฐกิจชะลอตัวนี่ทำอย่างไรกันแน่ ลองดูกลยุทธ์ต่อไปนี้เพื่อยกระดับการทำ Remarketing ของคุณไปอีกขั้นและประสบความสำเร็จยิ่งขึ้น

การแบ่งประเภทกลุ่มเป้าหมาย: แบ่งแยกแล้วปกครอง

แผน Retargeting ที่ประสบความสำเร็จสำหรับแอปเริ่มต้นจากกลยุทธ์การแบ่งประเภทกลุ่มเป้าหมายที่รัดกุม การวิเคราะห์ RFM เป็นกรอบการทำงานที่มีประโยชน์สำหรับการแบ่งประเภทผู้ใช้ตามพฤติกรรมหลักสามอย่างภายในแอป ได้แก่ Recency (เวลาที่มีกิจกรรมล่าสุด), Frequency (ความถี่ในการทำกิจกรรม) และ Monetary Value (มูลค่าเป็นตัวเงิน) เริ่มจากแบ่งฐานผู้ใช้เป็นผู้ที่ใช้จ่ายมาก ผู้ที่ซื้อสม่ำเสมอ และผู้ใช้ที่มีปฏิสัมพันธ์บ่อยๆ ทดลองกับประเภทย่อยซึ่งแบ่งตามช่วงเวลาที่เกิดกิจกรรมหรือความถี่ในการซื้อ เน้นแบ่งประเภทอย่างละเอียดและทำ Personalization แล้วคุณจะสามารถเจาะกลุ่มผู้ใช้ที่มีแนวโน้มมากที่สุดที่จะเกิด Conversion และทำการซื้อเพิ่มได้

เพิ่ม Engagement จากผู้ใช้ด้วย Personalization

Remarketing ที่มีการทำ Personalization อาจเป็นอาวุธลับที่ช่วยให้แอปของคุณประสบความสำเร็จได้ โดยเฉพาะในช่วงที่เศรษฐกิจย่ำแย่ เมื่อแบ่งฐานผู้ใช้ผู้ใช้ของคุณตามข้อมูลทางประชากรศาสตร์, Lifetime Value (LTV) และการใช้แอปในอดีต คุณจะสามารถนำส่งข้อความที่กำหนดเองซึ่งเหมาะสมกับความจำเป็นและความต้องการของผู้ใช้แต่ละคนได้ โดยอาจจะเตือนความจำให้ผู้ใช้ทำการซื้อให้เสร็จสมบูรณ์ ส่งดีลพิเศษสำหรับวันหยุดซึ่งแลกใช้ได้ในพื้นที่ของผู้ใช้ หรือมอบโปรโมชันพิเศษสำหรับสินค้าที่ผู้ใช้เคยแสดงความสนใจ ในตอนนี้ที่คู่แข่งลงโฆษณากันน้อยลง นับเป็นจังหวะที่ดีที่สุดในการสร้างความโดดเด่นด้วยการส่งข้อความที่มีการทำ Personalizationเพื่อดึงดูดให้ผู้ใช้เกิด Engagement และกลับมาที่แอปอีก ถือโอกาสเพิ่มความภักดีของผู้ใช้ในช่วงวิกฤต

เพิ่ม Retention Rate ด้วยการแปลงเป็นเกม

ใครบ้างจะไม่ชอบความสนุกสนานและตื่นเต้นเล็กๆ น้อยๆ ในกิจวัตรประจำวัน องค์ประกอบการแปลงเป็นเกมจะกระตุ้นให้ผู้ใช้สนใจแอปของคุณและจูงใจให้ผู้ใช้กลับมาใช้แอปอีก คุณสามารถสร้างประสบการณ์ที่แต่ละบุคคลสามารถเพลิดเพลินได้ในแบบของตัวเองภายในแอปของคุณ โดยมอบรางวัล ความท้าทาย หรือสิ่งตอบแทนให้แก่ผู้ใช้ ซึ่งจะช่วยดึงดูดให้เกิด Engagement ในหมู่ฐานผู้ใช้ที่คุณมีอยู่แล้ว แทนที่จะมุ่งหาผู้ใช้ใหม่เพียงอย่างเดียว การใช้กลวิธีแปลงให้เป็นเกมจะช่วยเพิ่มโอกาสที่ผู้ใช้จะใช้แอปต่อไปและก่อให้เกิดรายได้ผ่านการซื้อภายในแอปหรือ Engagement กับโฆษณาภายในแอป

ใช้พลังแห่งความภักดีและโปรแกรมบอกต่อ

ในช่วงเศรษฐกิจตกต่ำ คุณสามารถเพิ่มประสิทธิภาพของกลยุทธ์ Remarketing ได้ด้วยความภักดี และโปรแกรมบอกต่อ โดยกระตุ้นให้ลูกค้ารีวิวแอปและเสนอสิ่งตอบแทนหากลูกค้าช่วยบอกต่อ ซึ่งจะช่วยดึงดูดผู้ใช้ใหม่ๆ และสร้างการรับรู้แบรนด์ การอำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้แชร์เนื้อหาและลิงก์ภายในแอปง่ายขึ้นก็ช่วยโปรโมทแอปและเพิ่ม Engagement ได้เช่นกัน กลวิธีเหล่านี้จะช่วยให้รายได้ของแอปเพิ่มขึ้นในท้ายที่สุด การสร้างและรักษาตัวตนของแบรนด์ให้มั่นคงในตลาดมีประสิทธิภาพในการเพิ่มความน่าเชื่อถือในหมู่คนที่อาจกลายเป็นผู้ใช้ของคุณ แม้กระทั่งในตอนที่ผู้บริโภคลังเลใจที่จะซื้อจากแบรนด์ที่ตนไม่คุ้นเคย

รักษาแต้มต่อเหนือคู่แข่งด้วยชิ้นงานโฆษณาและการทดสอบสุดล้ำ

ในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจไม่สู้ดีเช่นนี้ แอปสามารถรักษาความสามารถในการแข่งขันและกระตุ้นให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีขึ้นได้ด้วยการสร้างสรรค์โฆษณาที่แปลกใหม่และนำไปทดสอบ เพื่อชิงความได้เปรียบ ผู้ลงโฆษณาเจ้าแรกๆ ที่ทำการตลาดด้วยโฆษณารูปแบบใหม่ หรือแนวทางการโฆษณาที่ต่างออกไปมักจะได้รับ Conversion และรายรับจากการโฆษณาสูงกว่า คุณสามารถสร้างความโดดเด่นในตลาดที่เนืองแน่นไปด้วยคู่แข่งได้ด้วยโฆษณาที่แปลกใหม่อย่างโฆษณาแบบไฮบริดหรือโฆษณาที่เล่นได้ แต่อย่าหยุดเพียงเท่านี้ คอยจับตาดูรูปแบบโฆษณาใหม่ที่นำมาใช้โดยผู้บุกเบิกในอุตสาหกรรมอย่างใกล้ชิดและทดลองใช้ด้วยตัวคุณเอง การทดสอบและเพิ่มประสิทธิภาพองค์ประกอบโฆษณาแต่ละรายการอย่างต่อเนื่องช่วยให้มั่นใจได้ว่าการออกแบบขององค์ประกอบดังกล่าวช่วยเพิ่ม Engagement ได้จริง คุณจึงสามารถใช้จ่ายโฆษณาอย่างมีกลยุทธ์ได้

ภาวะเศรษฐกิจถดถอยอาจเป็นช่วงเวลาที่ท้าทายสำหรับนักการตลาดแอป แต่ก็เป็นโอกาสที่จะเกิดการเติบโตและนวัตกรรมใหม่ๆ ได้เช่นกัน นักการตลาดแอปสามารถรักษาตำแหน่งในตลาดและขับเคลื่อนผลลัพธ์ที่ดีต่อไปได้ด้วยการใช้ความคิดสร้างสรรค์และนำโซลูชั่นที่เป็นนวัตกรรมมาใช้ คุณสามารถสร้างความภักดีในหมู่ผู้ใช้และเพิ่มรายได้โดยใช้กลยุทธ์ที่เน้น Retention และ Engagement ของผู้ใช้ รวมถึง Personalization และการแปลงเป็นเกม ยิ่งไปกว่านั้นคุณยังสามารถคงความสดใหม่และรักษาประสิทธิภาพของแคมเปญได้โดยการติดตามเทรนด์ในอุตสาหกรรมและทดลองใช้โฆษณารูปแบบใหม่ๆ หากทำการตลาดถูกวิธี นักการตลาดแอปจะอยู่รอดและประสบความสำเร็จได้ในช่วงเศรษฐกิจตกต่ำ พร้อมกับวางรากฐานให้มั่นคงสำหรับช่วงเวลาที่เศรษฐกิจเป็นใจขึ้นได้

ต้องการเร่งการเติบโตของแอปและรับข้อมูลเชิงลึกทางการตลาดถึงระดับผู้ใช้ใช่ไหม ขอดูตัวอย่าง Adjust ได้เลย!