กลยุทธ์การหารายได้จากเกมมือถือที่ได้ผล
Adjust , Content Team, Adjust, 22 เม.ย. 2565.
ในปี 2021 การใช้จ่ายของผู้บริโภคเกมมือถือสูงถึง 116,000 ล้านดอลลาร์ซึ่งเป็นตัวเลขที่น่าประทับใจ โดยข้อมูลดังกล่าวมาจาก AppAnnie ตัวเลขดังกล่าวมากกว่าปี 2020 ถึง 16,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งถือว่าเป็นปีที่เกมมือถือประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากอยู่แล้วเพราะคนที่อยู่ในภาวะล็อกดาวน์ที่เกี่ยวข้องกับการแพร่ระบาดหันไปหาเกมมือถือเพื่อเบียงเบนความสนใจ นอกจากนี้ Forbes ได้รายงานว่าผู้ใช้สมาร์ตโฟนโดยเฉลี่ยใช้จ่ายเงิน 9 ดอลลาร์ต่อเดือนในการซื้อในแอปเกมมิ่งฟรีบนมือถือ
ถึงแม้ว่าจะเห็นได้ชัดเจนว่าเกมมือถือสามารถทำเงินได้ แต่วิธีหารายได้จากเกมมือถือนั้นกลับไม่ชัดเจนนัก ต่อไปนี้เราจะพูดถึงกลยุทธ์ต่างๆ ในการเพิ่มประสิทธิภาพการหารายได้จากเกมมือถือสำหรับนักพัฒนาแอป
การหารายได้จากเกมคืออะไร
การหารายได้จากเกมคือกลไกที่เกมมือถือสร้างรายได้ แม้ว่าแนวคิดนั้นจะเรียบง่าย แต่การนำไปปฏิบัติจริงต้องมีการวางแผนเพิ่มเติม ดังนั้น การพิจารณาวิธีการสร้างรายได้เมื่อพัฒนาเกมของคุณจึงเป็นสิ่งสำคัญ
###สองตัวอย่างกลยุทธ์การหารายได้:
- สร้างความท้าทายที่ให้ผู้เล่นได้อัปเกรดฟรีเมียม
- แสดงโฆษณาคั่นระหว่างการหยุดเกมอย่างเป็นธรรมชาติ
การใช้เวลาและความพยายามในการทำความเข้าใจรูปแบบที่คุณต้องการใช้และวิธีการเพิ่มประสิทธิภาพกลยุทธ์สำหรับผู้ใช้ของคุณคือสิ่งสำคัญในการเพิ่มรายได้ให้สูงสุด
จะหารายได้จากเกมมือถืออย่างไร
เกมมือถือมีหลายรูปแบบ ทำให้มีวิธีการหารายได้จากเกมมือถือหลายวิธี กลยุทธ์การหารายได้บนมือถือใช้ขอบเขตจากเกมที่เล่นฟรี ที่อาศัยรายได้จากการโฆษณาหรือการซื้อในแอป หรือเกมที่ต้องสมัครสมาชิกซึ่งผู้เล่นต้องจ่ายเงินในการเล่น ในส่วนนี้ เราจะสำรวจรูปแบบและประเภทเกมที่รูปแบบดังกล่าวใช้ได้ผลที่สุด
รูปแบบและเทรนด์การหารายได้จากเกมมือถือ
ผู้พัฒนาส่วนใหญ่ใช้กลยุทธ์แบบหลายแนวทางในการหารายได้จากเกม ผู้พัฒนาตอบสนองความต้องการผู้เล่นหลายประเภท ดังนั้นจึงใช้กระแสรายได้ที่แตกต่างกัน
ทำไมถึงทำเช่นนี้
ในขณะที่ผู้ใช้ทุกคนล้วนมีค่า ผู้ใช้บางคนก็สร้างรายได้มากกว่าคนอื่น ยกตัวอย่างเช่น ผู้หญิงมักซื้อเนื้อหาในเกมมากกว่าผู้ชาย ไม่ใช่แค่เพียง 60% ของผู้หญิงที่เล่นเกมทุกวันเท่านั้น แต่ 36% ของจำนวนนี้ก็ใช้จ่ายไปกับเกมมือถือเช่นกัน ดังนั้น คุณจึงควรพิจารณาถึงผู้ที่อาจจะเป็นผู้ใช้และความสนใจของพวกเขาเมื่อคุณสร้างวิธีการหารายได้
มาสำรวจวิธีการหารายได้จากเกมมือถือที่เป็นที่นิยมและมีประสิทธิภาพมากที่สุดกัน
เกมที่รองรับโฆษณา
ผู้เล่นเกมแคชชวลบนมือถือจะคุ้นเคยกับรูปแบบการหารายได้นี้ ผู้ใช้ดาวน์โหลดเกมแบบฟรีๆ แต่จะเห็นโฆษณาตามจุดต่างๆ ระหว่างที่เล่นเกม โดยมักจะปรากฏขึ้นมาระหว่างด่านต่างๆ หรือการหยุดเกมตามธรรมชาติ
ประเภทของเกมที่รองรับโฆษณา
- โฆษณาวิดีโอที่ได้รางวัล ซึ่งจะจูงใจให้ผู้ใช้โต้ตอบกับโฆษณาเพื่อรับบางสิ่งในเกม (เช่น ชีวิตพิเศษ เนื้อหาพิเศษ ฯลฯ)
- โฆษณาที่เล่นได้ ซึ่งจะให้ผู้เล่นลองเล่นเกมในเวอร์ชันทดลองเล่นก่อนซื้อ ผู้เชี่ยวชาญในหน่วยงานสหรัฐคิดว่าโฆษณาที่เล่นได้เป็นรูปแบบโฆษณาในแอปที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด
รูปแบบนี้แพร่หลายในหมู่เกมแนวไฮเปอร์แคชชวล และเกมแคชชวลที่ผู้ใช้มักจะไม่ค่อยเต็มใจที่จะใช้เงินกับการสมัครสมาชิกหรือเนื้อหาในแอป
ในตัวอย่างข้างบน เราเห็นโฆษณาสองประเภทที่ใช้ในเกม TangleMaster หน้าจอด้านซ้ายมีโฆษณาแบนเนอร์ขนาดเล็กอยู่ด้านล่าง และหน้าจอด้านขวามีโฆษณาวิดีโอคั่น ที่โปรโมทอีกเกมหนึ่ง
เกมฟรีเมียม
ในรูปแบบการหารายได้นี้ ผู้เล่นสามารถดาวน์โหลดและเล่นเกมได้ฟรี แต่ผู้เล่นสามารถซื้อของในแอปเพื่อเข้าถึงเนื้อหาพิเศษ รับชีวิตมากขึ้น ข้ามเลเวล หรือความได้เปรียบอื่นๆ ได้ รูปแบบนี้เป็นที่นิยมในเกมหลายประเภทเพราะสามารถนำไปผสมกับโฆษณาเพื่อเสริมรายได้หรือทำหน้าที่เป็นช่องทางไปสู่การสมัครสมาชิก
Candy Crush เป็นเกมจับคู่ 3 แบบแคชชวล และเช่นเดียวกับอีกหลายๆ เกมที่เป็นคู่แข่ง เกมนี้อาศัยการซื้อในแอปเพื่อหารายได้ เช่น เกมมักเปิดโอกาสให้ผู้ใช้ซื้อ "ชีวิต" เพิ่มหรือแม้กระทั่งอัปเกรดรางวัลในเกม
เกมที่ต้องจ่ายเงิน
แนวคิดเบื้องหลังเกมที่ต้องจ่ายเงินนั้นเรียบง่าย ซึ่งก็คือผู้เล่นจะต้องซื้อเกม ในบริบทของมือถือ ผู้เล่นต้องจ่ายเงินเพื่อดาวน์โหลดเกมในโทรศัพท์ของตน สำหรับการดาวน์โหลดนี้ ผู้ใช้จะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมนิดหน่อย (เช่น 0.99 ดอลลาร์) หรือราคาแพงขึ้นหากต้องการเกมที่มีฟีเจอร์ครบถ้วนมากขึ้น (เช่น 15.99 ดอลลาร์)
มีหลายเกมที่ผสมกลยุทธ์การหารายได้หลายแบบเข้าด้วยกันเพื่อเพิ่มโอกาสในการหารายได้ให้สูงสุด ยกตัวอย่างเช่น Ticket to Ride ที่เป็นเกมกระดานยอดนิยมซึ่งมีแอปเป็นของตัวเองแล้ว ผู้เล่นจะต้องจ่ายเงินซื้อเกมเพื่อดาวน์โหลด แต่ยังมีการซื้อในแอปด้วย
เกมที่ต้องสมัครสมาชิก
รูปแบบการหารายได้แบบสมัครสมาชิกมีกรณีการใช้สองกรณี ในกรณีแรก ผู้ใช้จะสามารถเล่นได้ก็ต่อเมื่อซื้อการสมัครสมาชิก ในขณะที่กรณีที่สอง ผู้ใช้สามารถสมัครสมาชิกเพื่อนำโฆษณาออกได้ มาดูการสมัครสมาชิกสามประเภทที่พบบ่อยที่สุดในเกมมิ่งบนมือถือกัน
ประเภทของเกมที่ต้องสมัครสมาชิก
- การสมัครสมาชิกแบบรายการเดียว: เป็นการสมัครสมาชิกกับเกมใดเกมหนึ่ง โดยปกติมักจะเป็นการสมัครสมาชิกแบบรายเดือนหรือรายปี
- การสมัครสมาชิกแบบหลายรายการ: การสมัครสมาชิกแบบนี้จะเข้าถึงเกมได้หลากหลาย ไม่ว่าจะมาจากผู้จัดจำหน่ายรายเดียวหรือรายอื่น เช่น Apple Arcade
- การสมัครสมาชิก Battle Pass: การสมัครสมาชิกแบบนี้กำหนดให้ผู้เล่นต้องซื้อ “Battle Pass” หากต้องการรางวัล ผู้เล่นจะต้องเล่นเกมไปเรื่อยๆ เพื่อรับรางวัลในเวลาที่กำหนด ซึ่งจะเป็นการกระตุ้นให้ผู้ใช้เล่นบ่อยๆ
ภาพรวมของการหารายได้จากเกมมือถือ
การหารายได้เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องพิจารณาก่อนเปิดตัวแอปเกมมิ่ง นักพัฒนาแอปต้องคิดมากกว่าแค่ “เกมมือถือของฉันจะทำเงินได้มากแค่ไหน” แทนที่จะคิดแบบนั้น นักพัฒนาแอปควรพิจารณาว่าวิธีการหารายได้จะทำให้ผู้เล่นสนุกกับการเล่นเกมได้มากขึ้นอย่างไร ในท้ายที่สุด หากวิธีการหารายได้ช่วยเสริมประสบการณ์ของผู้ใช้ กระแสรายได้ก็จะได้รับผลบวกไปด้วย
หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการโฆษณาและหารายได้จากแอปเกมมิ่ง โปรดอ่านคู่มือไปสู่การตลาดเกมมือถือปี 2022: ข้อมูลเชิงลึกสำคัญและหลักปฏิบัติที่ดีที่สุด
อยากรู้ข้อมูลเชิงลึกของแอปเป็นรายเดือนไหม เป็นสมาชิกจดหมายข่าวของเราได้