นักการตลาดด้านการหาลูกค้าเตรียมรับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ใน iOS 15 ที่มาพร้อมหน้าผลิตภัณฑ์ที่ปรับแต่งเอง

ในการอัพเดทต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นเมื่อเปิดตัว iOS 15 ในปีนี้นั้น มีการอัพเดท 2 รายการที่จะส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในการตลาดด้านการหาลูกค้า ได้แก่ การปรับประสิทธิภาพของหน้าผลิตภัณฑ์ (PPO) และหน้าผลิตภัณฑ์แบบปรับแต่งเอง ตาม explained by Apple นักการตลาดและนักพัฒนาจะสามารถสร้างหน้าแบบปรับแต่งเองที่เกี่ยวข้องยิ่งขึ้นได้บน App Store ซึ่งจะสามารถปรับเปลี่ยนให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมายที่เฉพาะเจาะจงและเชื่อมโยงเข้ากับแคมเปญแต่ละชิ้นได้ การเปลี่ยนแปลงนี้จะสร้างโอกาสให้การเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายให้มากยิ่งขึ้นโดยผ่านแนวทางที่เหมาะกับแต่ละบุคคล และจะมอบเครื่องมือใหม่ๆ ให้นักการตลาดสามารถพัฒนากลยุทธ์การหาลูกค้าแบบมีค่าใช้จ่ายของตนบน iOS ได้

โอกาสในการทดสอบ A/B, ASO และออร์แกนิกที่เพิ่มขึ้น

PPO เป็นฟีเจอร์ใหม่สำหรับ iOS 15 ที่คุณจะสามารถทดสอบชิ้นงานโฆษณาสำหรับหน้าสินค้าของคุณบน App Store ได้ใน 3 รูปแบบที่แตกต่างกัน (ทางเลือก) เมื่อคุณสร้างรูปแบบที่คุณต้องการแล้ว คุณจะสามารถจัดสรรยอดการเข้าชมเพจไปตามรูปแบบต่างๆ ได้ เช่น ส่งยอดการเข้าชม 90% ไปยังหน้าควบคุมและ 10% ไปยังหน้ารูปแบบทดสอบ เมื่อการทดสอบเสร็จสิ้น คุณจะสามารถนำรูปแบบที่ได้ผลลัพธ์ดีที่สุดมาตั้งเป็นหน้าควบคุม และทดสอบรูปแบบอื่นๆ ต่อไปในอีก 90 ข้างหน้าได้

เมื่อเผยแพร่การทดสอบแล้ว คุณจะสามารถใช้การวิเคราะห์แอพใน App Store Connect เพื่อดู Impression, อัตรา Conversion และการปรับปรุงต่างๆ อย่าลืมจำกัดจำนวนขององค์ประกอบที่คุณจะทดสอบในช่วงเวลานั้นๆ เพื่อที่คุณจะสามารถเชื่อมโยงการเปลี่ยนแปลงนั้นๆ กับผลลัพธ์ได้ หากคุณเปลี่ยนทั้งสกรีนช้อตและพรีวิวแอพในรูปแบบเดียวกัน คุณอาจระบุได้ยากว่าองค์ประกอบใดที่ทำให้เกิดผลลัพธ์ที่คุณได้เห็น

ใช้หน้าผลิตภัณฑ์ที่แตกต่างกันสูงสุด 35 รายการ โดยกำหนดเป้าหมายไปที่ URL แคมเปญแบบปรับแต่งเองแต่ละชิ้น

นักการตลาดด้านการหาลูกค้าเคยต้องพยายามเชื่อมโยงข้อความให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมายที่เฉพาะเจาะจง เมื่อต้องการกระตุ้นให้กลุ่มเป้าหมายไปยังหน้าของตนใน App Store แต่เมื่อมีการอัพเดท iOS 15 และหน้าผลิตภัณฑ์แบบปรับแต่งเอง คุณก็จะสามารถสร้างหน้าที่มีความเฉพาะตัวและปรับแต่งข้อความให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมายที่แตกต่างกันได้ถึง 35 รายการ ซึ่งจะช่วยเพิ่มอัตรา Conversion ได้อย่างมาก

หน้า App Store เหล่านี้สามารถเน้นย้ำและอวดโฉมฟีเจอร์ที่เฉพาะเจาะจงของแอพคุณได้ ซึ่งคุณก็สามารถใช้เพื่อเจาะกลุ่มผู้ใช้ที่มีแนวโน้มจะตอบสนองต่อชิ้นงานโฆษณาหรือฟีเจอร์นั้นๆ ได้เช่นกัน หน้าเหล่านี้สามารถใช้แสดงข้อความส่งเสริมการขาย สกรีนช้อต และพรีวิวแอพ ซึ่งจะแตกต่างจากองค์ประกอบที่ปรากฏบนหน้าผลิตภัณฑ์แบบออร์แกนิกตามค่าเริ่มต้นทั่วไป เมื่อคุณสร้าง URL ที่แตกต่างกันสำหรับแต่ละหน้า คุณก็จะสามารถนำพากลุ่มเป้าหมายที่เฉพาะเจาะจงไปยังหน้าที่คุณคิดว่าเกี่ยวข้องสำหรับคนกลุ่มนั้นๆ มากที่สุดได้ ตัวอย่างเช่น แอพกีฬาก็อาจโปรโมทตนเองให้กับกลุ่มเป้าหมายที่เฉพาะเจาะจงได้ด้วยการเน้นให้เห็นทีมกีฬาบางทีม หรือแอพเกมก็อาจแสดงตัวอย่างเกมบางช่วงในแอพให้กลุ่มเป้าหมายได้รับชม

คุณสามารถสร้างหน้าใหม่ๆ ได้อย่างต่อเนื่อง แต่จะเผยแพร่พร้อมกันได้สูงสุดไม่เกิน 35 หน้า และยังสามารถติดตามประสิทธิภาพของแอพเหล่านั้นได้ในการวิเคราะห์แอพเพื่อดู Impression, การดาวน์โหลด และอัตรา Conversion ได้ Apple ยังระบุด้วยว่าคุณสามารถวัดผลข้อมูลอัตราการใช้งานต่อเนื่องและรายได้เฉลี่ยที่ได้รับจากผู้ใช้แต่ละรายในหน้าผลิตภัณฑ์แบบปรับแต่งเองแต่ละหน้าได้ด้วย คุณจึงสามารถติดตามประสิทธิภาพการทำงานเมื่อเวลาผ่านไปได้

การทำงานมีลักษณะเป็นอย่างไร:

• การสร้างหน้าตามตำแหน่งที่ตั้งของผู้ใช้: แอพส่งอาหารหนึ่งให้บริการในหลายตำแหน่งที่ตั้ง เช่น แอพอาจแสดงหน้าผลิตภัณฑ์ให้กับผู้ใช้จากเมืองหรือประเทศที่เฉพาะเจาะจงได้
• เน้นย้ำฟีเจอร์ต่างๆ: แอพสุขภาพและฟิตเนสสามารถเน้นย้ำโปรแกรมหรือคอร์สที่เสนอให้กับผู้ใช้ที่กำหนดเป้าหมายไว้ได้โดยอิงตามข้อมูลประชากรศาสตร์
• เสนอตัวเลือกในแอพที่แตกต่างกัน: แอพเกมที่มีโหมดการเล่าเรื่องหรือตัวละครให้เลือกที่แตกต่างกันสามารถโปรโมทตนเองให้กับผู้ใช้ตามลักษณะที่แตกต่างกันไปได้ เช่น เกมที่มีตัวละครให้เลือกเล่นได้ ก็สามารถนำเสนอองค์ประกอบต่างๆ ในเกมที่จะแสดงถึงตัวเลือกในการเล่นแต่ละตัวเลือกได้

คำถามเกี่ยวกับการเข้าถึงข้อมูลและความเป็นส่วนตัว

การอัพเดทเหล่านี้จะเพิ่มตัวเลือกให้นักการตลาดด้านการหาลูกค้า แต่ก็ทำให้เกิดคำถามว่า Apple จะมอบข้อมูลใดให้แก่นักพัฒนาบ้างและในรูปแบบใด Apple ระบุว่าผู้ใช้จะสามารถติดตามความสำเร็จของหน้าผลิตภัณฑ์แบบปรับแต่งเองแต่ละรายการได้ในการวิเคราะห์แอพ และยังสามารถวัดผลข้อมูลการใช้งานต่อเนื่องและรายได้เฉลี่ยของแต่ละหน้าได้อีกด้วย แต่ก็ยังไม่ได้ระบุชัดว่าข้อมูลใดบ้างที่ Apple จะมอบให้ เพราะอาจเป็นข้อมูลแบบรวมได้ การบอกเป็นนัยว่าจะสามารถติดตามข้อมูลและประสิทธิภาพตามรุ่นได้นั้นถือว่าเป็นสิ่งที่เป็นประโยชน์สำหรับนักการตลาด แต่ก็ไม่ได้บ่งชี้ว่า Apple ได้ระบุถึงหรือบังคับใช้เกณฑ์ด้านความเป็นส่วนตัวใดๆ แต่อย่างใด

แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้น หน้าผลิตภัณฑ์แบบปรับแต่งเองก็ถือเป็นการพัฒนาที่น่าตื่นเต้นสำหรับนักการตลาดและนักพัฒนาที่เผยแพร่แอพใน App Store เราจะคอยสื่อสารถึงการพัฒนาเพื่อให้คุณเท่าทันข้อมูลอยู่เสมอและเพื่อมอบเคล็ดลับและหลักปฏิบัติที่ดีที่สุดในการประสบความสำเร็จให้แก่คุณ

หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ iOS 14.5 ขึ้นไป คุณสามารถไปที่ศูนย์ทรัพยากรของเราได้ ที่นี่