เจาะลึกการทำ Deep Link บนแอปมือถือ

การทำ Deep Link สำหรับแอปมือถือเป็นเทคโนโลยีที่จะทำให้ระบบเปิดแอปและเปิดหน้าที่กำหนดไว้เมื่อผู้ใช้คลิกที่ URL บนหน้าเว็บหรือในอีกแอปหนึ่ง การนำ Deep Link มาใช้เป็นวิธีที่จะสามารถเพิ่มประสิทธิภาพของประสบการณ์ผู้ใช้และเพิ่ม conversion rates ให้คุณได้. ด้วยเหตุนี้ เราจึงได้อธิบายวิธีสร้าง Deep Link และข้อมูลเชิงลึกที่เป็นประโยชน์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ไว้ดังต่อไปนี้

ทำไมเราจึงต้องทำ Deep Link

สมมติว่าคุณได้เผยแพร่แอปเพลงแอปหนึ่ง และคุณได้ลงเงินไปจำนวนมากกับการแสดงแคมเปญบนเว็บไซต์ชื่อดังเพื่อประกาศเปิดตัวเพลงใหม่ ในแคมเปญนั้น คุณปล่อยตัวอย่างเพลงดังกล่าวเอาไว้ แต่คุณต้องการให้ผู้ใช้ได้ฟังตัวอย่างเพลงนั้นในแอปของคุณ ไม่ใช่บนเว็บไซต์ที่ผู้ใช้จะเห็นเพียงหน้าปกอัลบั้มเท่านั้น

อีกตัวอย่างกรณีหนึ่งได้แก่เมื่อคุณต้องการกระตุ้นให้ผู้ใช้ที่ไม่มีความเคลื่อนไหวกลับมาใช้งานอีกครั้งผ่านแคมเปญการขาย โดยในแคมเปญนี้ ระบบจะพาผู้ใช้ไปยังหน้าขายสินค้าในแอปของคุณเมื่อคลิกหนึ่งครั้ง โดยที่ผู้ใช้ไม่ต้องค้นหาหน้าดังกล่าวหรือพิมพ์รหัสคูปองด้วยตนเอง ตัวอย่างกรณีทั้งสองนี้ล้วนแสดงให้เห็นบทบาทสำคัญของ Deep Link ที่ทำให้แคมเปญเหล่านี้เป็นไปได้

การทำ Deep Link บนแอปมือถือช่วยให้ประสบการณ์ผู้ใช้ลื่นไหลและสามารถเพิ่มอัตราคอนเวอร์ชันและอัตราการใช้งานต่อเนื่องได้อย่างมาก หากคุณต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการทำ Deep Link โปรดไปที่บล็อกโพสต์ของเราที่จะอธิบายถึง the effects of deep linking in campaigns

ทำไมจึงมี Deep Link

ตามที่ได้กล่าวไป การทำ Deep Link ช่วยให้ผู้ใช้ของเราท่องไปมาระหว่างเว็บและแอปได้ง่ายดายยิ่งขึ้นกว่าเดิมมาก และยังช่วยให้ผู้ลงโฆษณามีโอกาสสร้างคอนเวอร์ชันจากผู้ใช้เหล่านั้นด้วย

ตัวอย่างเช่น สมมติว่าเราต้องการแสดงแคมเปญโปรโมทของขวัญวันคริสต์มาสเพื่อเชิญชวนให้ผู้คนมาซื้อของบนแอปอีคอมเมิร์ซของคุณ ในแคมเปญนั้น คุณจัด "ของขวัญวันคริสต์มาส" ไว้เป็นหนึ่งหมวดหมู่โดยแสดงภาพตัวอย่างสินค้าในสต็อกไว้ด้วย แต่คุณต้องการให้บรรดานักช้อปดูสินค้าบนแอปของคุณ ไม่ใช่บนเว็บไซต์ จุดนี้เองที่ Deep Link จะช่วยคุณได้ หากผู้ใช้ติดตั้งแอปไว้แล้ว เมื่อผู้ใช้คลิกที่ลิงก์ ระบบก็จะเปิดแอปขึ้นมาและ (ในบางกรณี) จะแสดงสินค้าให้ดูได้ในทันที

การรักษาผู้ใช้ให้ยังคงใช้งานต่อเนื่องถือเป็นประเด็นหลักที่ Deep Link มุ่งเน้น การใช้ Deep Link จะช่วยให้ผู้ใช้ยังคงสนใจแอปของคุณอย่างต่อเนื่อง และยังมีประโยชน์ในการดึงดูดผู้ใช้ให้กลับมามีส่วนร่วมอีกครั้ง และเป็นองค์ประกอบสำคัญในแคมเปญการกำหนดเป้าหมายซ้ำอีกด้วย ในท้ายที่สุด การทำ Deep Link จะมอบวิธีที่มากคุณประโยชน์ในการนำผู้ใช้ไปยังที่ต่างๆ ภายในระบบนิเวศของคุณ รวมถึงช่วยสร้างประสบการณ์ผู้ใช้ที่ดียิ่งขึ้นซึ่งจะเพิ่มยอดขาย คอนเวอร์ชัน และอัตราการใช้งานต่อเนื่องให้คุณได้

Deep Link ทั้ง 2 ประเภท

Deep Link มีด้วยกัน 2 ประเภท ได้แก่ Deep Link ค่าเริ่มต้นและ Deferred Deep Link

ค่าเริ่มต้น

Deep Link ค่าเริ่มต้นจะเพียงนำผู้ใช้ไปยังแอปที่ผู้ใช้ติดตั้งไว้อยู่แล้ว แต่หากยังไม่ได้ติดตั้งแอป ลิงก์นั้นก็จะไม่สามารถไปถึงตำแหน่งข้อมูลนั้นๆ ของแอปได้ และระบบจะแสดงข้อความระบุข้อผิดพลาดแทน

Deep Link ค่าเริ่มต้นมีประโยชน์กับแคมเปญการกำหนดเป้าหมายซ้ำที่นักการตลาดแอปเพียงต้องการค้นหาผู้ใช้ที่ติดตั้งแอปไว้แล้วและดึงดูดให้ผู้ใช้เหล่านั้นหันกลับมาใช้แอปเท่านั้น

Deferred

Deferred Deep Link จะมีความซับซ้อนกว่า Deep Link ค่าเริ่มต้น เพราะจะสามารถนำผู้ใช้ไปยัง App Store หรือ Play Store ได้ในกรณีที่ผู้ใช้ยังไม่ได้ติดตั้งแอป (หรือนำไปยังตำแหน่งอื่นๆ เช่น เว็บไซต์ของแอปเพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติม) และจากนั้นก็เปิดหน้าเดิมที่ระบบจะพาผู้ใช้ไปในตอนแรก

ดังนั้น หากผู้ใช้ดาวน์โหลดแอปอีคอมเมิร์ซหลังจากคลิกที่โฆษณาเพื่อจะดูรองเท้าสักคู่หนึ่งแต่ยังไม่ได้ติดตั้งแอปเอาไว้ ระบบก็จะพาผู้ใช้รายนั้นไปยังร้านค้าแอปเพื่อดาวน์โหลด เป็นต้น เมื่อผู้ใช้เปิดแอปหลังจากติดตั้งเรียบร้อย หน้าสินค้าก็จะแสดงขึ้นมา

Deferred Deep Link จะใช้งานได้ผ่านโซลูชันการทำ Deep Link เช่นจาก Adjust เท่านั้น ซึ่งจะสร้างได้ผ่านการผสาน SDK โดยคุณสามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้โดยคลิก here สำหรับ Android และคลิก here สำหรับ iOS

Contextual Deep Link คืออะไร

คุณอาจเคยได้ยินคำว่า Contextual Deep Link มาบ้าง ลิงก์ประเภทนี้เป็นลิงก์ที่ให้ประโยชน์เพิ่มเติมได้อย่างเด่นชัด โดยเป็นลิงก์ที่สามารถจัดเก็บข้อมูลได้มากขึ้น ให้นักการตลาดดำเนินการกับเนื้อหาของตนได้มากขึ้น

Contextual Deep Link เป็น Deep Link ค่าเริ่มต้นหรือ Deferred Deep Link ที่มีพารามิเตอร์เพิ่มเติมที่นักการตลาดสามารถเพิ่มเข้าไปได้เอง โดยลิงก์ประเภทนี้จะไม่อยู่โดดๆ

วิธีสร้าง Deep Link

เราจะเริ่มต้นด้วยแนวคิดพื้นฐาน: การสร้าง Deep Link กระบวนการทั่วไปในการสร้าง Deep Link อาจมีความซับซ้อนและมีขั้นตอนที่ไม่จำเป็นที่นักพัฒนาและนักการตลาดต้องร่วมมือกันทำ เพราะลิงก์ประเภทนี้จะใช้งานในแอปโดยจะพาผู้ใช้ไปยังปลายทางที่กำหนด

นอกจากนี้ การสร้าง Deep Link ด้วยตนเองยังอาจใช้เวลามาก และอาจเพิ่มโอกาสที่จะเกิดข้อผิดพลาดจากผู้ดำเนินการได้อีกด้วย Deep Link จะใช้งานไม่ได้ถ้ามีการสะกดผิดเช่นเดียวกับ URL ทั่วๆ ไป และแม้วิศวกรที่เก่งที่สุดก็อาจพิมพ์ผิดพลาดได้ การมีโซลูชันที่จะสร้าง Deep Link ได้โดยอัตโนมัติสามารถช่วยประหยัดเวลาและทรัพยากรที่ต้องใช้ในการเพิ่มประสิทธิภาพแคมเปญและกลยุทธ์ต่างๆ ลงได้

ในท้ายที่สุด คุณก็จะต้องมองหาเครื่องมือที่ใช้งานง่ายและที่จะดำเนินกระบวนการสร้าง Deep Link ได้โดยอัตโนมัติเพื่อให้ผลลัพธ์เป็นที่ไว้วางใจได้และมีข้อผิดพลาดจากผู้ดำเนินการน้อยที่สุด เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ Adjust’s Deeplink Generator ซึ่งเป็นเครื่องมือที่จะมอบ URL ของ Deep Link ที่สร้างไว้โดยสมบูรณ์ที่จะทำงานได้กับทั้งลิงก์แอป (Android) และ Universal Link (iOS) ซึ่งจะช่วยลดความยุ่งยากในการสร้าง Deep Link ด้วยตัวเองลงได้

ทั้งการทำ Deep Link แบบมีแบบแผน (สำหรับ [Android]) และ iOS) และ iOS 9+ Universal Link มีการระบุไว้ในเอกสารอย่างครบถ้วน และแนวคิดพื้นฐานก็ค่อนข้างคล้ายคลึงกัน นั่นคือการเชื่อมโยง URL (youapp://; สำหรับแบบมีแบบแผน และ https://yourdomain.com/ สำหรับ Universal Link) เข้ากับแอปของคุณ เมื่อคลิก URL แล้ว ระบบจะเปิดแอปขึ้นมาหากติดตั้งแอปเอาไว้

แต่ขั้นตอนก็อาจจะไม่ง่ายเช่นนั้นเสมอไป คุณอาจกังวลว่าจะเกิดอะไรขึ้นหากมีคนคลิกที่ URL ของ Deep Link แต่ยังไม่ได้ติดตั้งแอป ผู้ที่คลิกลิงก์แต่ยังไม่ได้ติดตั้งแอปจะเห็นข้อความแสดงข้อผิดพลาดหรืออาจจะไม่เห็นอะไรเลย แม้ว่าจะไม่มีวิธีที่จะตรวจสอบได้โดยตรงว่าแอปแสดงขึ้นบนอุปกรณ์เมื่อคลิกลิงก์จากเว็บหรือไม่ แต่ก็ยังมีวิธีที่บางประการที่จะ "เรียกใช้" แอปในกรณีที่ติดตั้งเอาไว้ และส่งลูกค้าไปยัง App Store , ไปยังเว็บไซต์ หรือไปยังตำแหน่งอื่นๆ เมื่อไม่ได้ติดตั้งแอปเช่นเดียวกัน

ตามที่ได้กล่าวไป การทำ Deep Link สำหรับแอปมือถือแบบมีแบบแผนสำหรับ Android และ iOS และ iOS 9+ Universal Link จะระบุไว้ในเอกสารอย่างครบถ้วน ดังนั้นเราจะมาดูตัวอย่างการทำงานของลิงก์เหล่านี้กัน

การนำ Deep Link มาใช้สำหรับ Android

สมมติว่า URL ของ Deep Link ที่คุณจะใช้ในตัวอย่างการทำ Deep Link ของ Android เป็น yourapp://path/ และ Bundle ID ของแอปคือ com.yourapp.example

โซลูชัน JavaScript

เทคนิคเก่าที่ใช้กันทั่วไปในการแก้ไขปัญหานี้คือการใช้ iframe โหลด URL ของ Deep Link ขึ้นมา แล้วใช้ JavaScript แบบล่าช้าเพื่อนำผู้ใช้ไปยังร้านค้า

เมื่อทำ เบราว์เซอร์ก็จะลองโหลด yourapp://path/ ก่อน

• หากติดตั้งแอปของคุณแล้ว ระบบจะเปิดแอปนั้นและ JavaScript ต่อไปนี้ก็จะไม่ทำงาน
• หากยังไม่ได้ติดตั้งแอป ก็จะไม่มีอะไรเกิดขึ้นในขณะที่โหลด yourapp://path/ ใช้เวลา 2 วินาที JavaScript ก็จะเปลี่ยนเส้นทางของหน้าดังกล่าวไปยัง Play Store แล้วผู้ใช้ก็จะสามารถติดตั้งแอปได้จากจุดดังกล่าว

ทั้งนี้ โค้ดดังกล่าวก็มีช่องโหว่เล็กน้อย โดยหลังจากที่ระบบเปิดแอปขึ้นมาแล้วผู้ใช้ย้อนกลับไปยังเบราว์เซอร์ของตน JavaScript อาจจะทำงานอีกครั้งแล้วเปลี่ยนเส้นทางผู้ใช้กลับไปยัง Play Store ซ้ำอีก อย่างไรก็ตาม เราสามารถปรับปรุงแก้ไขได้โดยตรวจสอบเวลาที่ผู้ใช้เปลี่ยนกลับไปยังเบราว์เซอร์ของตนเพื่อระบุว่าจะต้องเปลี่ยนเส้นทางผู้ใช้กลับไปยังร้านค้าหรือไม่:

โซลูชัน Intent

โค้ดข้างต้นจะเลิกใช้งานใน Chrome สำหรับ Android เวอร์ชัน 25 ขึ้นไป ตามที่ระบุใน Chrome documentation ทั้งนี้ Google จะมอบ Intent URL ที่เป็นโซลูชันที่ดีกว่าให้ เมื่อผู้ใช้คลิก URL intent://path/#Intent;scheme=yourapp;package=com.yourapp.example;end จะเกิดการดำเนินการต่อไปนี้

• หากติดตั้งแอปแล้ว Chrome จะเปิดแอปขึ้นมา
• หากยังไม่ได้ติดตั้งแอป Chrome จะเปิด Play Store แทน

ฉันควรใช้โซลูชัน Deep Link แบบใด

เราขอแนะนำให้ใช้โซลูชัน Intent เนื่องจากเป็นโซลูชันที่ใช้งานได้ง่ายกว่าและจะทำให้ประสบการณ์ผู้ใช้ลื่นไหลได้มากกว่า อย่างไรก็ตาม เบราว์เซอร์ที่ใช้จะต้องรองรับโซลูชันนี้ด้วย แต่ระบบ Android ในปัจจุบันยังค่อนข้างกระจัดกระจาย ทำให้ยังคงมีระบบปฏิบัติการและเบราว์เซอร์รุ่นเก่าอยู่มากมาย ยิ่งไปกว่านั้น Android WebView ที่ใช้ในหลายแอปก็มีค่าเริ่มต้นที่ไม่รองรับ Intent URL ตารางต่อไปนี้จะแสดงให้คุณทราบว่าคุณควรใช้โซลูชันใดสำหรับเบราว์เซอร์หลักๆ ของ Androidซ